10 กิจกรรมท้าลมหนาวสุดประทับใจที่นากาโน่ - นีงาตะ

Last updated: 23 ม.ค. 2566  |  462 จำนวนผู้เข้าชม  | 

10 กิจกรรมท้าลมหนาวสุดประทับใจที่นากาโน่ - นีงาตะ

10 Things to do in winter in NAGANO and NIIGATA

10 กิจกรรม หน้าหนาว สุดประทับใจที่ นากาโน่ – นีงาตะ`



นากาโน่ (Nagano) – นีงาตะ (Nagano) ในช่วง หน้าหนาว

นากาโน่ (Nagano) กับ นีงาตะ (Niigata) เป็น 2 จังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว จัดอยู่ใน ภูมิภาคชูบุ (Chubu)  บ้างก็เรียกรวมกันว่า ชินเอ็ตสึ (Shin’etsu) และเป็นส่วนหนึ่งของโซนญี่ปุ่นตะวันออกซึ่งเป็นพื้นที่ที่เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว (ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม) อากาศก็จะหนาวเย็นค่อนข้างนาน รวมระยะเวลาประมาณ 5 เดือนเลยทีเดียว 

ทันทีที่เข้าสู่ช่วง หน้าหนาว บริเวณจังหวัด นากาโน่ และ นีงาตะ จะมีหิมะโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง และจะตกมากเป็นพิเศษในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อหิมะปกคลุมทั่วพื้นที่ก็เป็นเวลาเริ่มต้นของกิจกรรมสุดพิเศษที่ทำได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น ซึ่งเราเตรียม 10 กิจกรรม ที่จะทำให้ทริปฤดูหนาวในญี่ปุ่นของทุกคนเป็นที่น่าจดจำไปนานแสนนาน



01 เล่นสกีและสโนว์บอร์ดที่สุดยอดลานสกีระดับประเทศ

― SKI & SNOWBOARD

จากการจัดอันดับจังหวัดที่มีลานสกีมากที่สุดในญี่ปุ่น พบว่านีงาตะนำมาเป็นอันดับ 1 ส่วนนากาโน่นั้นตามมาติดๆ เป็นอันดับที่ 2 ซึ่งแต่ละลานสกีก็ต่างงัดไม้เด็ดสร้างความโดดเด่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาใช้วันหยุดแสนสนุกในฤดูหนาว แต่จากตัวเลือกที่มากมายนี้ เราจะสรุปสั้นๆ ให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจว่าลานสกีแถบไหนจะตรงใจที่สุด

คารุอิซาวะ (Karuizawa) 

ใครที่เดินทางมาญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมซึ่งเป็นต้นฤดูหนาวนั้นจะพบว่าลานสกีส่วนใหญ่ยังไม่เปิดให้บริการ แต่ถ้าอยากเล่นสกีก็มีให้เล่นที่ คารุอิซาวะ (Karuizawa) เพราะสกีรีสอร์ทแถวนี้เขาลงทุนสร้างหิมะเทียมบนลานสกี โดยปกติจะเริ่มเปิดในช่วงวันที่ 23 พฤศจิกายน แต่ควรเช็คที่เว็บไซต์ของลานสกีแต่ละแห่งก่อนเดินทางเพื่อจะได้ไม่เสียเที่ยว 

ลานสกีกาล่ายูซาว่า (GALA Yuzawa)

ถ้ามีเวลาไม่มาก หรือไปเที่ยวพร้อมกับครอบครัว อยากเดินทางสะดวกๆ ขอแนะนำ ลานสกีกาล่ายูซาว่า (GALA Yuzawa) ซึ่งสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที อีกทั้งตัวสถานีตั้งอยู่ด้านหน้าลานสกีแบบที่แทบจะไม่ต้องเดิน อีกทั้งสามารถซื้อตั๋วขึ้นสกีลิฟต์ เช่าอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ ได้ที่นั่นโดยไม่ต้องพกอะไรมาเลย ใครที่มี JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) จะได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีสตาฟคนไทยประจำการคอยสอนเราเล่นสกีหรือสโนบอร์ดอยู่ด้วย 

หุบเขาฮาคุบะ (Hakuba Valley) 

แต่ถ้าใครอยากเน้นวิวสวยๆ พื้นที่เล่นสกีกว้างๆ ขอแนะนำลานสกีที่มีมากกว่า 10 แห่ง บริเวณ หุบเขาฮาคุบะ (Hakuba Valley) เพราะเป็นจุดที่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก มีภูเขาลูกสวยๆ มากมายที่ขาวโพลนด้วยหิมะ เรียกได้ว่าเล่นสกีได้แบบตื่นตาตื่นใจสุดๆ ไปเลย อย่างเช่นที่ ลานสกีฮัปโปโอเนะ (Happo One) 
 
02 เติมความอบอุ่นด้วยหม้อไฟในกระท่อมน้ำแข็ง

― IGLOO & HOTPOT

ที่ หมู่บ้านกระท่อมหิมะแห่งเมืองอียามะ (Iiyama Snow Hut Viilage) ในจังหวัดนากาโน่มีกระท่อมที่เหมือนกับบ้านของชาวเอสกิโม ซึ่งคนที่นี่เรียกกันว่า คามาคุระ (Kamakura) โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสัมผัสกับกระท่อมหิมะได้อย่างใกล้ชิดระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึง 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ถ้านั่งแท็กซี่จาก Iiyama Station ก็จะใช้เวลาเพียง 15 นาที

ไม่ใช่แค่ดู ถ่ายรูป หรือสัมผัส แต่เรายังสามารถเข้าไปรับประทานเมนูหม้อไฟท้องถิ่นที่มีมาตั้งแต่สมัยเซ็งโงกุ (Sengoku Period) เรียกว่า โนโรชินาเบะ (Noroshi Nabe) ซึ่งประกอบไปด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างผัก, เห็ด, เนื้อหมูมิยูกิ และมันฝรั่ง ส่วนซุปร้อนๆ นั้นเป็นรสมิโซะของนากาโน่ ทำให้สัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นได้โดยไม่หนาวกาย

ใครที่สนใจอยากลิ้มลองเมนูหม้อไฟนี้จะเปิดบริการเพียงวันละ 3 รอบ แบ่งออกเป็นมื้อกลางวัน 2 รอบ และมื้อเย็น 1 รอบ ระหว่างที่ซดซุปอุ่นๆ อาจจะลืมไปเลยว่าที่นั่งและผนังที่ล้อมรอบนั้นเป็นน้ำแข็งทั้งสิ้น เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์เก๋ๆ ที่ไม่ใช่ว่าจะทำที่ไหนตอนไหนก็ได้จริงๆ และถ้าไปในช่วงค่ำจะสามารถชมแสงไฟในกระท่อมหิมะอันแสนสวยงามได้เช่นกัน

03 เพลิดเพลินกับเทศกาลฤดูหนาวท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์

― WINTER FESTIVAL

ค่ำคืนอันแสนยาวนานและหนาวเหน็บไม่ได้ทำให้ทริป หน้าหนาว หมดสนุกสักนิด เพราะที่ นากาโน่ และ นีงาตะ นั้นมีเทศกาลฤดูหนาวที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ตั้งแต่ประติมากรรมแกะสลักน้ำแข็ง ไปจนถึงการจัดไฟประดับเล่นแสงสีกับวิวหิมะที่รายล้อม ก็ล้วนแต่น่าฝ่าลมไปดูให้เห็นกับตา เพราะบอกเลยว่าของจริงกับในรูปมันคนละฟีลกันเลย ซึ่งเราได้คัด 3 เทศกาลฤดูหนาวที่ควรค่าแก่การไปในปี พ.ศ. 2563 นี้เป็นที่สุด
 
เทศกาลหิมะโทกามาจิ (Tokamachi Snow Festival)

เทศกาลแรกที่แนะนำคือ เทศกาลหิมะโทกามาจิ (Tokamachi Snow Festival) สำหรับครั้งที่ 71 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ณ เมืองโทกามาจิ (Tokamachi) จังหวัดนีงาตะซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าหิมะตกหนักสุดๆ แต่นั่นกลับกลายเป็นข้อดีที่ผู้คนสามารถนำกองหิมะเหล่านั้นมาแกะสลักเป็นประติมากรรมอันยิ่งใหญ่อลังการ ถ้าชอบงานศิลปะสเกลใหญ่ๆ ถูกใจแน่นอน

เทศกาลโคมไฟนากาโน่ (Nagano Lantern Festival)

ส่วนใครที่ไม่ได้อินกับหิมะมากมายอะไร ที่ตัวเมืองนากาโน่ก็มี เทศกาลโคมไฟนากาโน่ (Nagano Lantern Festival) จัดเป็นประจำทุกปีเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ในช่วงต้นถึงกลางกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เป็นครั้งที่ 17 เพื่อระลึกถึงการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ค.ศ. 1998 ซึ่งเราได้จะได้ชมโคมไฟแฮนด์เมดประดับประดาอยู่ทั่วถนน โดยไฮไลท์อยู่ที่วัดเซ็นโคจิ (Zenkoji Temple) ที่จะคอยสับเปลี่ยนสีสันเป็น 5 สีตามสีของห่วงโอลิมปิก

เทศกาลหิมะซึนัน (Tsunan Snow Festival) 

ปิดท้ายด้วย เทศกาลหิมะซึนัน (Tsunan Snow Festival) ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมนิวกรีนเปียซึนัน (New Greenpia Tsunan) ที่อยู่ในจังหวัดนีงาตะ ระหว่างวันศุกร์และเสาร์ที่ 13-14 มีนาคม พ.ศ. 2563 ภายในงานมีกิจกรรมและการแสดงมากมายที่น่าสนใจอย่างแข่งสโนว์บอร์ด คอนเสิร์ต แต่ไฮไลท์ที่น่าประทับใจสุดๆ เห็นจะเป็นการปล่อยโคมไฟกระดาษที่ให้บรรยากาศโรแมนติกเหมือนฉากในเรื่องราพันเซลเลยด้วย

04 เดินเล่นเลียบทิวสนซีดาร์ที่โทกาคุชิ

― CEDAR TREES

ต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ผลัดใบเหลือเพียงกิ่งก้านในฤดูหนาว แต่ที่ โทกาคุชิ (Togakushi) ในจังหวัดนากาโน่มีทิวต้นสนซีดาร์ซึ่งเป็นต้นสนสายพันธุ์ขนาดใหญ่และไม่ได้ผลัดใบแม้อากาศจะเย็นจัด เกล็ดหิมะที่เกาะใบสนยิ่งทำให้บรรยากาศรอบๆ สวยอย่างน่าพิศวง เหมาะแก่การใส่รองเท้าลุยหิมะเดินชมเป็นที่สุด 

ถ้ามาถึงโทกาคุชิทั้งทีมีจุดหนึ่งที่ควรแวะไปดูซะหน่อยก็คือ คากามิอิเคะ หรือ บ่อน้ำกระจก (Kagami Pond) ที่มีน้ำใสนิ่งราวกับกระจกเงาบานยักษ์สะท้อนผืนป่าและเทือกเขาหิมะที่สวยจนต้องอ้าปากร้องว้าว แต่ถ้าไปตอนหนาวจัดบ่อน้ำก็อาจจะกลายเป็น

05 ปั่นจักรยานล้อโตลุยกองหิมะ

― FATBIKE

ถ้าชอบการผจญภัยหรือท่องเที่ยวแบบลุยๆ จักรยานล้อโต (Fat Bike) คือยานพาหนะที่เหมาะกับการขี่ลุยเนินหิมะเป็นที่สุด ด้วยยางล้อขนาดใหญ่ทำให้การขับขี่บนหิมะไม่เป็นอุปสรรค โดยจุดที่เช่าจักรยานล้อโตได้สะดวกที่สุดอยู่ที่ชั้น G ของสถานีอียามะ (Iiyama Station) นั่นก็คือ ศูนย์กิจกรรมชินเอ็ตสึชิเซ็นเคียว (Shinetsu Shizenkyo Activity Center) ซึ่งมีอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายครบพร้อมสำหรับทุกกิจกรรมสุดมันส์ในฤดูหนาว

06 ตื่นตากับทางข้ามของพระเจ้าที่ทะเลสาบซูวะ

― FROZEN  LAKE

ทะเลสาบซูวะ (Lake Suwa) เป็นทะเลสาบในเมืองซูวะ (Suwa) จัดว่าเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนากาโน่ ซึ่งผิวน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งผืนยักษ์เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวของทุกปี แต่ภายใต้แผ่นน้ำแข็งยังคงมีน้ำร้อนไหลวนอยู่ อีกทั้งอุณหภูมิในช่วงกลางวันและกลางคืนแตกต่างกันอย่างมาก จนบางครั้งเกิดปรากฏการณ์ที่มีลักษณะเป็นคลื่นน้ำแข็งเรียงเป็นแนวยาว เรียกว่า โอมิวาตาริ (Omiwatari) หรือหมายถึง “ทางข้ามของพระเจ้า”

หลังจากเกิดภาวะโลกร้อนยิ่งทำให้โอกาสที่จะได้ชมโอมิวาตารินั้นลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย แต่ถ้าไปถึงแล้วแต่ไม่ได้เห็นทางข้ามของพระเจ้าขึ้นมาจริงๆ ก็ใช่ว่าทริปนั้นจะเฟล เพราะยังมีอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าทำที่ทะเลสาบซูวะ นั่นคือการออกเรือไปตกปลาวาคาซางิ (Wakasagi) ซึ่งได้ฟีลลิ่งเหมือนกำลังอยู่ขั้วโลกเหนือเลยทีเดียว

 07 ชมวิวภูเขาหิมะแบบพาโนรามาจากจุดชมวิวสร้างใหม่

― PANORAMA VIEW

ฮาคุบะเมาน์เทนฮาเบอร์ (Hakuba Mountain Harbor) เป็นจุดชมวิวบนภูเขาอิวะตะเกะ (Mt. Iwatake) ที่เปิดเมื่อตุลาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งสามารถนั่งชมทิวทัศน์อันแสนอัศจรรย์ได้ทุกฤดู โดยเฉพาะหน้าหนาวที่เทือกเขาโดยรอบขาวโพลนด้วยหิมะ ด้านล่างยังเห็นคนเล่นสกีกับสโนว์บอร์ดอย่างสนุกสนาน หรือต่อให้ไม่ได้เล่นเองแค่ดูก็สนุก บริเวณใกล้ๆ ยังมีร้านเบเกอรี่จากนิวยอร์กที่มีมัฟฟินแอปเปิ้ลอร่อยมากๆ

08 ชมลิงหิมะแช่ออนเซ็น

― MONKEYS IN THE HOT SPRINGS

คงเคยเห็นรูปฝูงลิงน้อยใหญ่แช่น้ำร้อนอย่างสบายใจเฉิบท่ามกลางหิมะกันมาแล้ว ซึ่งลิงเหล่านั้นอาศัยอยู่ที่ อุทยานลิงจิโกคุดานิ (Snow Monkey Park / Jigokudani Monkey Park) ซึ่งการเดินทางอาจจะหลายต่อและใช้เวลาสักหน่อย แต่ระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้านออนเซ็นที่บรรยากาศดีมากๆ ในหน้าหนาว อีกทั้งการได้มาสังเกตการณ์หรือแอบถ่ายเจ้าลิงหน้าแดงตัวเป็นๆ ที่ท่าทางเหมือนมนุษย์นั้นสนุกกว่าที่คาดเยอะเลยแหละ

09 หย่อนกายแช่บ่อน้ำพุร้อนเอาท์ดอร์

― OUTDOOR ONSEN

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่ผ่อนคลายร่างกายได้ดีที่สุดใน หน้าหนาว นั่นก็คือ ออนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อน) โดยเฉพาะหลังจากเดินฝ่าลมหนาวๆ มาทั้งวัน ซึ่งที่ นากาโน่ และ นีงาตะ มีโรงแรมและสกีรีสอร์ทที่ให้บริการบ่อน้ำพุร้อนอยู่เป็นจำนวนมาก บางที่สามารถเข้าไปใช้บริการออนเซ็นเพียงอย่างเดียวได้โดยไม่ต้องพักที่นั่น และถ้าใครยังไม่เคยลองแช่แบบเอาท์ดอร์ มีโอกาสคราวนี้อยากให้ลองแช่สักครั้งเพราะว่ามันสบายตัวจริงๆ ยิ่งอากาศข้างบนเย็นแค่ไหน น้ำในบ่อที่ร้อนๆ ยิ่งทำให้เราฟินได้มากเท่านั้น

 หมู่บ้านออนเซ็นที่เดินทางสะดวกและดีงามมากๆ ที่นีงาตะคือ เอ็ตจิโกะยุซาวะออนเซ็น (Echigo Yuzawa Onsen) ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีเอ็ตจิโกะยุซาวะ (Echigo Yuzawa Station) ซึ่งสามารถนั่งโจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) เดินทางไปถึงที่ได้อย่างสะดวกมากๆ

10 นั่ง Joyful Train รถไฟสุดหรรษา

― JOYFUL TRAIN

ขนส่งสาธารณะที่ใช้เดินทางได้สะดวกที่สุดก็ต้องรถไฟ โดยเฉพาะทริปที่ต้องขึ้นลงภูเขาสูงๆ รถไฟนี่แหละรวดเร็วและสบายที่สุดแล้ว แต่ถ้าใครที่ไม่ได้อินกับรถไฟมาก อาจจะรู้สึกจำเจทุกครั้งที่ต้องนั่งรถไฟผ่านป้ายแล้วป้ายเล่ากว่าจะถึงที่หมาย แต่ความรู้สึกเหล่านั้นจะหมดไปถ้าหากได้นั่งรถไฟสนุกๆ สุดแนวที่เรียกว่า จอยฟูลเทรน

 หนึ่งในจอยฟูลเทรนที่ให้บริการในพื้นที่จังหวัดนากาโน่และนีงาตะ นั่นคือ รถไฟรีสอร์ทวิวฟูรุซาโตะ (Resort View Furusato) ที่วิ่งระหว่าง สถานีนากาโน่ (JR Nagano Station) กับ สถานีมินามิโอตาริ (JR Minami-Otari Station) ซึ่งสามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้ฟรีหากซื้อ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)

ระหว่างที่ขบวนเคลื่อนจะได้ชมทัศนียภาพฤดูหนาวสุดฟิน ไม่ว่าจะเป็นเจแปนแอลป์ (Japan Alps) แม่น้ำภูเขา ไปจนถึงหมู่บ้านชาวเขา ระหว่างทางยังจอดแวะหลายจุดเพื่อให้ลงไปเก็บภาพพร้อมชิมอาหารท้องถิ่น ได้แก่ สถานีโอบาสึเตะ (Obasute Station), สถานีมัตสึโมโตะ (Matsumoto Station), สถานีโฮตากะ (Hotaka Station) และสถานีชินาโนะโอมาจิ (Shinano-Omachi Station)

บัตรโดยสารที่เรียกว่า เจอาร์อีสต์พาส นากาโน่ นีงาตะ แอเรีย (JR EAST PASS (Nagano, Niigata area))  เป็นบัตรที่เหมาะกับทริปเที่ยวนากาโน่และนีงาตะที่สุด โดยสามารถนั่งรถไฟ นาริตะเอ็กซ์เพรส (Narita Express) จากสนามบินนาริตะ (Narita Airport) หรือ โตเกียวโมโนเรล (Tokyo Monorail) จากสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) ฟรีหมด รวมถึงรถไฟ JR แบบอื่นๆ ในโตเกียวตามเส้นทางรถไฟใน JR East Lines ไปจนถึงรถไฟ จอยฟูลเทรนด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ความคุ้มสุดอยู่ที่สามารถนั่งชินคันเซ็นฟรี 4 เส้นทาง ได้แก่ โทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) ยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) โจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) และ โฮกุริกุชินคันเซ็น (Hokuriku Shinkansen) แถมใช้ได้ถึง 5 วัน ไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน ภายในระยะเวลา 14 วันนับจากออกบัตร ราคาผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) เพียง 17,310 เยน ส่วนเด็ก (6-11 ปี) เพียง 8,650 เยน หากราคาที่ซื้อในไทยก็จะราคาถูกกว่าซื้อที่ญี่ปุ่นถึง 1,000 เยน

สนใจคลิกดู โปรโมชั่นประกันเดินทาง เพิ่มเติม 

Cr ข้อมูล: https://matcha-jp.com/

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้