Last updated: 10 ม.ค. 2566 | 476 จำนวนผู้เข้าชม |
ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีก 1 ประเทศที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับทุกเทศกาลประจำชาติที่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปีจากรุ่นสู่รุ่น ในแต่ละเทศกาลจะมีขบวนแห่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เชิญขวนให้ชาวต่างชาติอย่างเราๆ ได้มาสัมผัสและต่างประทับใจจนต้องกลับมาเยือนประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เราได้คัดเลือก 10 เทศกาลที่น่าสนใจและอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสบรรยากาศสักครั้งในชีวิตจากเทศกาลจำนวนมากที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ได้แก่
1. "เทศกาลหิมะซัปโปโร" โลกฤดูหนาวในจินตนาการ (กุมภาพันธ์)
งานประติมากรรมขนาดใหญ่ที่แกะสลักขึ้นจากหิมะและน้ำแข็งนี้ ซึ่งจัดในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ระยะเวลาในการจัดงานประมาณ 1 สัปดาห์ ที่เมืองซัปโปโร ในจังหวัดฮอกไกโด ในยามค่ำคืนประติมากรรมน้ำแข็งจะยิ่งตระการตาขึ้นไปอีกด้วยแสงสีจากการประดับ เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่อลังการราวกับว่าประติมากรรมน้ำแข็งเหล่านั้นมีชีวิตขึ้นมาเลยทีเดียว
2. "เทศกาลซันจะ" แห่งอาซากุสะที่จัดมาแล้วถึง 700 ปี (พฤษภาคม)
เทศกาลซันจะจัดขึ้นที่ศาลเจ้าอาซากุสะในย่านอาซากุสะ ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1312 มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปีเพื่อเฉลิมฉลองผู้ก่อตั้งวัดเซนโซจิ (浅草寺 / Senso-ji) วัดใหญ่ประจำอาซากุสะนั่นเอง โดยจะการหาบเกี้ยวเฉลิมฉลองทั้งหมด 3 วัน เทศกาลซันจะ ซึ่งจัดขึ้นทุกวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมของทุกปี มีผู้คนแวะเวียนมาเข้ารวมกว่า 150,000 – 2 ล้านคนเลยทีเดียว
3. "เทศกาลคันดะ" ชุบชีวิตยุคเฮอันขึ้นในโตเกียว (พฤษภาคม)
เทศกาลนี้มีการเฉลิมฉลองมาเป็นระยะเวลากว่า 1,300 ปีตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งศาลเจ้าคันดะจิงจะ และในระหว่างยุคสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1630-1867) และรับการสืบทอดเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน ศาลเจ้าหลักของงานเทศกาลนี้ คือคันดะจิงจะ มีความเชื่อมโยงกับความเจริญรุ่งเรืองและโชคดี เอบิซุและไดโกะกุเต็น 2 ใน 7 เทพเจ้าแห่งความโชคดีเป็นเทพเจ้าผู้ปกป้องคุ้มครองศาลเจ้าแห่งนี้ ในงานจะมีขบวนแห่และศาลเจ้าขนาดเล็กที่เรียกว่ามิโกะชิเข้าร่วมถึง 200 ขบวน ขบวนพาเหรดที่ประกอบด้วยนักดนตรี และพระบนหลังม้า ไฮไลท์ของฮงมัตสึริคือการเดินขบวนของคนกว่า 500 คนที่แต่งตัวด้วยชุดเสื้อผ้าในยุคเฮอัน (794-1185) แต่กิจกรรมในเทศกาลคันดะจะแตกต่างกันไปตามปีโดยมีอยู่สองแบบ ได้แก่ฮงมัตสึริ จัดในปีที่ลงท้ายด้วยเลขคี่ และคาเกะมัตสึริ จัดในปีที่ลงท้ายด้วยเลขคู่ โดยจะจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี
4. "เทศกาลกิอง" ย้อมเกียวโตด้วยสีสันของงานเทศกาล (กรกฎาคม)
งานจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งเดือนโดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ในขบวนแห่ของเทศกาลกิองจะมีการนำรถลากที่เรียกว่ายามาโบโกะจำนวน 33 คันออกมาจัดแสดง การตกแต่งยามาโบโกะแต่ละคันจะอิงเรื่องราวตามประเพณีหรือตำนานของญี่ปุ่น ช่วงเวลาที่เราแนะนำคือช่วงค่ำค่ะ เมื่อโคมไฟจำนวนมากที่ประดับอยู่บนยามาโบโกะสว่างไสวขึ้น บรรยากาศของงานก็จะเปลี่ยนไปในพริบตา ทั้งลึกลับและงดงาม เหมาะกับบรรยากาศของเมืองกิองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน หากมาเที่ยวในช่วงเทศกาลก็จะรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต
5. "เทศกาลฮากาตะกิองยามากาสะ" ชมยามากาสะโลดแล่นอยู่ใจกลางเมือง (กรกฎาคม)
เทศกาลฮากาตะกิองยามากาสะจัดขึ้นที่จังหวัดฟุกุโอกะ โดยจะจัดขึ้นเป็นเวลา 8 วัน เป็นเทศกาลสำคัญของศาลเจ้าคุชิดะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกด้วยนะคะ ประวัติก็มีอยู่ว่าเมื่อ 800 ปีก่อนหน้านี้ เกิดโรคระบาดขึ้นในฮากาตะ มีพระรูปหนึ่งให้ชาวบ้านแบกเกี้ยวที่ทำจากไม้ แล้วท่านก็ขึ้นไปนั่งเพื่อโปรยน้ำไปรอบเมืองพร้อมกับสวดภาวนาขับไล่โรคร้าย ในงานผู้ชายจำนวนมากลากรถลากที่เรียกกันว่ายามากาสะและยังมีการแข่งขันกันในด้านความเร็วอีกด้วย
6. "เทศกาลเทนจิน" ย้อนเวลาสู่โอซาก้ายุคแรกเริ่ม (กรกฎาคม)
เทศกาลเทนจินแห่งโอซาก้าจัดขึ้นในวันที่ 24 และ 25 กรกฎาคมของทุกปี งานนี้เป็นหนึ่งในสามเทศกาลใหญ่ของญี่ปุ่น เป็นงานเฉลิมฉลองแด่เทพแห่งการศึกษาซึ่งได้รับการสักการะที่ศาลเจ้าโอซาก้าเท็มมังกู (Osaka Tenmangu) ผู้คนจะมาขอพรให้สุขภาพแข็งแรงและการค้ารุ่งเรือง เทศกาลนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเดินขบวนในชุดโบราณและขบวนเรือประดับไฟที่ล่องไปตามแม่น้ำโอคาวะ ในตอนท้ายของงานเทศกาลจะมีการจุดดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ สามารถสนุกไปกับงานเทศกาลและดอกไม้ไฟได้พร้อมกันเลยค่ะ เทศกาลนี้หาชมที่อื่นไม่ได้
7. "เทศกาลอาวะโอโดริ" แห่งโทคุชิมะ ปัดเป่าความร้อนในฤดูร้อนออกไป! (สิงหาคม)
เทศกาลอาวะโอโดริคือการเต้นรำพื้นบ้านของจังหวัดโทคุชิมะ และยังหมายถึงงานเทศกาลเต้นรำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วย งานนี้จัดขึ้นในช่วงโอบ้ง ระหว่างวันที่ 12 – 15 สิงหาคม ซึ่งเชื่อกันว่าวิญญาณของผู้ที่จากไปแล้วจะกลับมายังบ้านเกิด อาวะโอโดริเป็นการร่ายรำเพื่อต้อนรับวิญญาณเหล่านั้นนั่นเอง
8. "เทศกาลอาโอโมริเนบุตะ" ชมโคมไฟสว่างไสว! (สิงหาคม)
เทศกาลเนบุตะแห่งอาโอโมริจัดขึ้นในคืนวันทานาบาตะ (วันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติ) โดยมีธรรมเนียมการลอยโคม ภาวนาขอให้ตัวเองครอบครัวห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บค่ะ เทศกาลเนบุตะเริ่มขึ้นราวปี 1716 ในตอนนั้นผู้คนจะถือโคมไฟและจัดขบวนเต้นรำไปรอบเมือง หลังจากนั้นจึงมีการตบแต่งโคมไฟเป็นตัวละครตามเรื่องราวคาบูกิ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ของเทศกาลเนบุตะที่เราเห็นในปัจจุบัน
9. "เทศกาลใหญ่ซาวาระ" ชมรถลากดาชิขนาดใหญ่ใกล้โตเกียว (ตุลาคม)
เทศกาลใหญ่ซาวาระจัดขึ้นที่เมืองคาโทริ จังหวัดชิบะ เป็นเวลา 3 วันในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม รถลากดาชิที่นำออกมาแสดงในงานนี้เป็นสิ่งที่คนท้องถิ่นต่างก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างสรรค์เป็นระยะเวลาหนึ่งปี ว่ากันว่ารถลากดาชิในงานนี้เป็นหนึ่งในรถลากที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น
10. "เทศกาลจิจิบุโย" ชมท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สว่างไสวด้วยดอกไม้ไฟและโคมลอย (ธันวาคม)
เทศกาลจิจิบุโย (Chichibu Night Festival / Chichibuyo Matsuri) เทศกาลนี้มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก งานนี้จัดขึ้นในวันที่ 1 - 6 ธันวาคมที่เมืองจิจิบุ (Chichibu) ในจังหวัดไซตามะ (Saitama) จุดเด่นของงานนี้คือเป็นงานที่จัดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเทศกาลใหญ่ๆ ในฤดูร้อนได้จัดกันไปหมดแล้วนั่นเอง
สำหรับใครที่วางแผนจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ลองวางแผนำไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้มีโอกาสไปเข้าร่วมเทศกาลชื่อดังในจังหวัดต่างๆของประเทศญี่ปุ่นกันนะคะ ที่สำคัญ เพื่อความอุ่นใจตลอดทริปเดินทาง อย่างลืมทำประกันภัยการเดินทางติดตัวไว้ เพราะนอกจากจะคุ้มครองอุบัติเหตุ และเจ็บป่วยแล้ว ยังคุ้มครองไปถึงเที่ยวบินล่าช้า กระเป๋าหาย และไฟลท์ดีเลย์ ฯลฯ เรียกว่าจ่ายหลักร้อย แต่ได้รับความคุ้มครองหลักล้าน อยากมั่นใจทุกการเดินทาง ต้องทำประกันภัยการเดินทางอย่าง MSIG ติดตัวไว้
สนใจคลิกดู โปรโมชั่นประกันเดินทาง เพิ่มเติม
Cr ข้อมูล: https://matcha-jp.com/
21 ส.ค. 2567
13 ก.ย. 2567
10 มิ.ย. 2567